วอลเตอร์ โรลล์ (Walter Röhrl) ประทับใจ ปอร์เช่ ปานาเมรา เทอร์โบ อี-ไฮบริด (Porsche Panamera Turbo E-Hybrid) รุ่นใหม่ พร้อมฟันธงอนาคตยานยนต์พลังงานทางเลือก

วอล์เตอร์ โรลล์ (Walter Röhrl) ตำนานแรลลี่โลก ทดสอบขับ ปอร์เช่ ปานาเมรา เทอร์โบ อี-ไฮบริด (Porsche Panamera Turbo E-Hybrid) รุ่นใหม่ เป็นครั้งแรกที่เซลล์ อัม ซี (Zell am See)
โรลล์ ชื่นชอบระบบช่วงล่าง Porsche Active Ride ที่มอบการควบคุมเหนือชั้น
ระบบดังกล่าวใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูง 400 โวลต์ของรุ่น E-Hybrid
โรลล์ มองว่าระบบขับเคลื่อนไฮบริดเหมาะกับการใช้งานประจำวันด้วยระยะทางวิ่งไฟฟ้าราว 90 กิโลเมตร
เขายังสนับสนุนการใช้พลังงานเชื้อเพลิงสังเคราะห์เพื่ออนาคตของวงการมอเตอร์สปอร์ต

วอล์เตอร์ โรลล์ (Walter Röhrl) ตำนานแรลลี่โลกสองสมัย ได้ทดสอบขับ ปอร์เช่ ปานาเมรา เทอร์โบ อี-ไฮบริด (Porsche Panamera Turbo E-Hybrid) รุ่นใหม่ เป็นครั้งแรกที่เซลล์ อัม ซี (Zell am See) ประเทศออสเตรีย โดยเขาประทับใจเป็นพิเศษกับระบบช่วงล่าง Porsche Active Ride ที่ผสมผสานระบบกันสะเทือนถุงลมและโช้คอัพไฮดรอลิกเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ มั่นคง และตอบสนองฉับไว แม้ในสภาวะถนนที่ไม่ดี

ระบบ Porsche Active Ride นี้ ต้องการพลังงานจำนวนมากเพื่อทำงาน ซึ่งระบบไฟฟ้าแรงดันสูง 400 โวลต์ของ ปานาเมรา เทอร์โบ อี-ไฮบริด (Panamera Turbo E-Hybrid) นับว่าเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนั้น โรลล์ยังชื่นชอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ไฮบริดที่ผสานพลังเบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมองว่าเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยระยะทางวิ่งไฟฟ้าสูงสุดราว 90 กิโลเมตร ทำให้สามารถขับขี่ในเมืองได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการไปช้อปปิ้ง ไปฟิตเนส หรือไปทำงาน

อีกทั้ง โรลล์ ยังสนับสนุนการใช้พลังงานเชื้อเพลิงสังเคราะห์ (eFuel) เพื่ออนาคตของวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยรถสปอร์ตหลายรุ่นที่ใช้ในการแข่งขัน F.A.T. Ice Race ที่เซลล์ อัม ซี ล้วนใช้น้ำมัน eFuel ซึ่งช่วยลดการปล่อยมลพิษและยังคงรักษาความเร้าใจของการแข่งขันไว้ได้

สำหรับอนาคตของวงการยานยนต์ โรลล์เชื่อว่าพลังงานทางเลือกจะมีบทบาทสำคัญ โดยสนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้า พลังงานไฮบริด รวมถึงพลังงานสังเคราะห์ (eFuel) ในรถยนต์รุ่นต่างๆ มองว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังคงความเร้าใจในการขับขี่