| |

แลมโบร์กินี เผย “Telemetry X” เทคโนโลยีเชื่อมต่อสนามแข่ง ยกระดับประสบการณ์ขับซูเปอร์คาร์

Automobili Lamborghini เผยโฉม “Telemetry X” นวัตกรรม “เชื่อมต่อสนามแข่ง” สำหรับซูเปอร์คาร์รุ่นอนาคตที่จะผลิตในเมืองซานตา อกาตา โบโลเญเซ การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นที่งาน Consumer Electronics Show (CES) ลาส เวกัส ณ ศูนย์นวัตกรรม Accenture โดย สเตฟาน วิงเคิลแมนน์ ประธานกรรมการและ CEO ของ Automobili Lamborghini กล่าวว่า “นวัตกรรมอยู่ในแก่น DNA ของเรา ดังที่เราเพิ่งพิสูจน์มาแล้วกับ Revuelto[1] ซูเปอร์คาร์ที่ล้ำสมัยในทุกด้าน และรถยนต์แนวคิดพลังงานไฟฟ้า Lanzador ในอนาคตอันใกล้น ซูเปอร์คาร์ของเราจะไม่เพียงมอบความตื่นเต้น แต่ยังมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ดื่มด่ำอย่างแท้จริง Telemetry X เป็นตัวอย่างเบื้องต้นของบริการเชื่อมต่อที่จะมอบให้ลูกค้าของเราในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลจากสนามแข่งมาใช้ เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการเปิดตัว Huracán STO ในปี 2020 ซึ่งเป็นซูเปอร์คาร์ Lamborghini คันแรกที่ติดตั้งระบบ telemetry ที่ใช้งานผ่านแอป Unica ด้วย Telemetry X, Lamborghini คาดหวังประสบการณ์ขับรถในสนามแข่งที่ดื่มด่ำมากขึ้น ผ่านการผสานการทำงานของ 3 ระบบที่พัฒนาขึ้นร่วมกับ Accenture: Real Time Remote Garage (การฝึกสอนระยะไกล), Biometric Data System (ระบบข้อมูลชีวภาพ), และ Digital Co-Pilot (ผู้ช่วยเสียงดิจิทัล)

“Telemetry X เป็นตัวอย่างชัดเจนว่าประสบการณ์ที่ได้รับจากมอเตอร์สปอร์ตสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับซูเปอร์คาร์บนถนนได้อย่างไร ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าบนสนามแข่ง” รูเวน โมห์ร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของ Lamborghini กล่าว “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เราเลือก Revuelto เป็นต้นแบบสำหรับเทคโนโลยีนี้ รถที่ไม่เหมือนใครเพราะการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้”

Remote Garage เป็นเว็บแอปพลิเคชันที่ใช้เทคโนโลยี 5G ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถดูภาพวิดีโอการขับรถบนสนามแข่งแบบเรียลไทม์ พร้อมข้อมูล telemetry ได้ตลอดเวลา ภาพและข้อมูลสามารถติดตามสดได้โดยโค้ชที่อยู่ทุกที่บนโลก เพื่อให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะแก่ผู้ขับขี่ ไม่เพียงหลังจากการขับขี่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงระหว่างการขับขี่อีกด้วย ดังนั้นปรัชญาของ Remote Garage คือการมอบประสบการณ์ขับขี่ในสนามแข่งที่สมบูรณ์และน่าดึงดูดยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของผู้ขับขี่ มั่นใจได้ในความสนุกสนานในการขับขี่

Biometric Data System จะจับข้อมูลชีวภาพบางอย่างของผู้ขับขี่ รวมถึงอัตราการเต้นของหัวใจและระดับความเครียด เพื่อให้การติดตามประสิทธิภาพที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเป็นข้อมูลอ้างอิงที่เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงการฝึกซ้อม

ทั้งสองระบบทำงานร่วมกันกับ Digital Co-Pilot ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะที่เปรียบเทียบข้อมูลชีวภาพและข้อมูลของรถเพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้ขับขี่ขณะขับรถบนสนามแข่ง ตัวอย่างเช่น Digital Co-Pilot จะวิเคราะห์เวลาต่อรอบและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการปรับปรุงเส้นทางการแข่งและจุดเบรก รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของรถบนสนามแข่ง

source: Lamborghini

Similar Posts

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments